เคล็ดลับดูแลผิว..ปลอดภัยจากแดดหน้าร้อน
ในชีวิตประจำวันเราต้องเจอกับแสงต่างๆ รอบตัวอยู่แล้ว ทั้งแสงไฟ และแสงแดด ซึ่งแสงทุกชนิดล้วนแล้วแต่ทำร้ายให้ผิวแก่ก่อนวัย แต่ที่โหดร้ายกับผิวที่สุดก็คือ ยูวี (UV) เพราะความรุนแรงของแสงยูวี สามารถเข้าถึงชั้นในของผิว ผลก็คือ ผิวทั้งเหี่ยว ทั้งคล้ำเสีย ในกรณีของยูวีบี (UVB) ส่งผลเสียเข้าสู่เซลล์ผิวชั้นล่างของหนังกำพร้า ส่วนยูวีเอ (UVA) จะลงลึกถึงชั้นหนังแท้
ยูวีเอจะกระตุ้นอนุมูลอิสระให้บังเกิดขึ้น ทำร้ายดีเอ็นเอและทุกสิ่งในเซลล์ ส่วนยูวีบีส่งผลเสียในการทำร้ายดีเอ็นเอจนเสียสภาพไปเป็น CPDs (cyclobutane pyrimidine dimers) ในเวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น ส่งผลให้เซลล์ผิวบริเวณนั้นเสื่อมสภาพ เมื่อเซลล์ผิวรู้ตัวว่า CPDs ทวีจำนวนจนเกินจะซ่อมแซมหรือทำลายแล้ว ก็จะส่งสัญญาณสร้างเม็ดสีเมลานินเพิ่มเติมทันที ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 2 วัน
แต่รังสียูวีเอร้ายกว่านั้น แม้จะไม่รุนแรงมาก แต่สามารถกระตุ้นเม็ดสีที่เซลล์ผิวสร้างไว้แล้วให้กระจายตัวออกมาแทบจะทันที (melanosome transfer) และนั่นคือเหตุผลที่ชาวไทยเราดำเร็ว ดำได้ดำดีนั่นเอง แต่ไม่นับรวมความเหี่ยวและหยาบกร้านของผิวเป็นของแถมอีก เรียกว่าร้ายกาจมากจริงๆ
ถึงเวลาต้องงัดอาวุธมาสู้!!
1.หลีกเลี่ยงแสงแดดระหว่าง 10 โมงถึง 3 โมงเย็น
- สำหรับช่วงแดดอ่อนๆ ก็โดนได้เพราะแสงแดดมีส่วนช่วยสร้างวิตามินดี ช่วยบำรุงกระดูกแข็งแรงยืนยาว สิ่งสำคัญคือ ในทุกๆ วันควรจะทาครีมกันแดดเสมอ และต้องเป็นครีมกันแดดที่กันได้ทั้งยูวีเอและยูวีบี สังเกตุง่ายๆ คือ ดูว่ามีค่า PA++ หรือ SPF อย่างน้อย 15 หรือเปล่า ถ้าครีมกันแดดละลายก็ต้องทาใหม่ ยิ่งถ้าโดนน้ำหรืออยู่ในน้ำครีมกันแดดก็ยิ่งละลายไปเรื่อยๆ ดังนั้นควรทาซ้ำทุกครึ่งชั่วโมง
2.รับประทานอาหารผิวเพื่อบำรุงผิวจากภายใน
- สารสกัดเปลือกสนฝรั่งเศส (Pycnogenol : 50-100 มก./วัน) และ สารสกัดเมล็ดองุ่น (Grape Seed Extract : 50-100 มก./วัน) อุดมด้วยสาร Oligomeric proanthocyanidins ที่สามารถยับยั้งเอนไซม์ที่มาทำลายคอลลาเจน และยังมีอานุภาพลดการสร้างเมลานินสีเข้ม (Eumelanin) แล้วให้ผิวหันไปสร้างเมลานินสีอ่อน (Eumelanin) ที่ทำให้ผิวยังคงสภาวะต่อต้านรังสียูวีไว้ได้ พร้อมความใส ไม่คล้ำเสียอย่างที่หลายคนต้องการ
- สารสกัดจากทับทิม (Pomegranate) ช่วยป้องกันอันตรายจากรังสียูวีบีได้โดยตรง และรวมถึงคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระของสาร Ellagic Acid ที่พบในทับทิม พร้อมเป็นปราการป้องกันภัยจากรังสียูวีเอไปพร้อมๆ กัน ขนาดรับประทานที่แนะนำ 250-500 มก./วัน
- ไลโคพีน (Lycopene) สารสีแดงที่อยู่ในมะเขือเทศ แตงโม ฟักข้าว มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระอย่างดี และที่สำคัญคือ สามารถลดความหยาบกร้านของผิวลงได้ พร้อมป้องกันการอักเสบแดงของผิวจากรังสียูวี ขนาดรับประทานที่แนะนำ 10 มก./วัน
3.บำรุงผิวพรรณจากภายนอกด้วยครีมที่ให้ความชุ่มชื้น
- ครีมที่ใช้ควรมีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น กลุ่มกรดวิตามินเอ แคโรทีนอยด์ และวิตามินซี แต่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเพราะสารพวกนี้สลายตัวง่าย